ข้อมูลแม่นยําไม่ตกหล่น
เก็บข้อมูลบนคลาวด์ดาต้าสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายจากการสแกน NFC และ QR code โดยตรงจากตัวสัตว์เพื่อเข้าถึงข้อมูลพื้นฐานของการจัดการการสัตว์เลี้ยงและสัตว์จรจัดตามหน้าที่ของผู้ที่สแกน เพื่อป้องกันการเพิ่มประชากรสัตว์จรจัดในสังคมและช่วยผู้เลี้ยงสัตว์ในการจัดการสัตว์เลี้ยงของตนรวมถึงทําหมันสัตว์และหาบ้านให้ลูกสัตว์เกิดใหม่
ใช้งานร่วมกันได้ทุกคน
เพื่อการแก้ปัญหาที่แท้จริงเราเปิดให้ทุกท่านสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาสัตว์จรจัด โดยการลงทะเบียนสัตว์แบบไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อรับสิทธิพิเศษต่างๆและสามารถเลือกไมโครชิพหรือป้ายชื่อที่เพื่อเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลได้แบบไม่มีข้อผูกมัด รวมถึงการบริจาคและการเข้ามามีส่วนร่วมในการลงพื้นที่เพื่อแก้ปัญหาอีกด้วย
ง่ายต่อการจัดการข้อมูลสัตว์
ผูัใช้งานสามารถลงข้อมูลสัตว์เลี้ยงได้โดยที่ไม่มีไมโครชิพ เพื่อการใช้งานสมุดวัคซีนออนไลน์ การค้นหาร้านค้าและบริการ ต่างๆรอบตัวคุณรวมถึงคลินิคสัตว์เลี้ยงที่คุณหมอจะเป็นผู้เพิ่ม ข้อมูลด้านสุขภาพและวัคซีนให้กับน้องๆ ซึ่งไมโครชิพจะเป็น เครื่องมือเพิ่มความสะดวกในการระบุตัวตนที่รวดเร็วและแม่นยํา รวมถึงเป็นการแสดงความเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงตัวนั้นๆอีกด้วย
ป้ายห้อยคอสัตว์เลี้ยง
- ผลิตจากวัสดุ”อีพ็อกซี่”ที่มี
- นํ้าหนักเบาและแสกนได้ง่าย
- เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นสัตว์เลี้ยง
- ที่มีเจ้าของง่ายต่อการพากลับบ้าน
- และใช้บริการกับร้านต่างๆที่รองรับ
ไมโครชิพสําหรับสัตว์เลี้ยง
- ผลิตจากวัสดุ “ไบโอกลาส”
- ที่สามารถอยู่ได้ผิวหนังได้อย่าง
- ไม่ระคายเคืองนานถึง15ปี
- สแกนหาไมโครชิพใต้ผิวหนังโดย
- ใช้มือถือได้ลึกถึง10มิลลิเมตร
ไมโครชิพสําหรับบริจาค
- สําหรับท่านที่ต้องการช่วยเหลือ
- โครงการสัตว์จรจัดโดยการบริจาค
- ในรูปแบบไมโครชิพ ทางพอว์ทาวน์
- จะขอร่วมบริจาคอีก 1 ชิ้นทันที
- กับมูลนิธิต่างๆทั่วประเทศไทย
คําถามที่พบบ่อย
ไมโครชิพนี้แตกต่างจากไมโครชิพรุ่นอื่นๆอย่างไร?
ไมโครชิพของเราใช้คลื่น 13.56MHz ที่มีข้อดีตรงสามารถเข้าถึง ข้อมูลได้โดยใช้ระบบ NFC บนมือถือซึ่งการเข้าถึงข้อมูลที่ง่ายกว่า ได้เปิดโอกาสให้เราได้ใช้งานร่วมกันได้กว้างขวางและมีประสิทธิภาพ มากขึ้นกว่าไมโครชิพที่ใช้คลื่นแบบ 125KHz และ 134KHz
ไมโครชิพคลื่น 13.56MHz เหมาะสมในการนํามาใช้งานกับหมาและแมวหรือไม่?
ตัวไมโครชิพจะมีขนาดที่เท่ากันและวัสดุที่หมือนกันกับความถี่อื่นทุก ประการรวมถึงมาตรฐานต่างๆตั้งแต่การผลิตถึงขั้นตอนการฝัง แต่จะต่างกันที่ตัวคลื่นที่ใช้งานซึ่งจะไม่สามารถใช้เครื่องอ่านร่วมกัน ได้ ส่วนระยะแสกน 10มม. จากการทดลองแล้วไม่ได้มีปัญหาให้ ทํางานยากขึ้นแต่อย่างไรแต่จะพบปัญหาการเคลื่อนที่ของไมโครชิพ มากกว่าซึ่งก็ได้แก้ปัญหาโดยการฝังชิพที่โคนหูแทน ผลลัพธ์ก็ออก มาดีไม่พบการเคลื่อนที่และไม่สร้างความรําคาญแก่สัตว์
ไมโครชิพคลื่น 13.56MHz สามารถพาสัตว์เดินทางไปต่างประเทศได้หรือไม่?
เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จะตรวจเช็คไมโครชิพโดยใช้เครื่องอ่านเฉพาะ สําหรับคลื่นที่มีความถี่ 125KHz และ 134KHz เท่านั้น สัตว์ที่ฝังชิพ ความถี่ 13.56MHz จะต้องฝังชิพความถี่ตามประเทศปลายทาง กําหนดอีกครั้งในตําแหน่งหลังคอแทนตําแหน่งใต้โคนหู
ติดไมโครชิพแล้วจะได้ประโยชน์อะไร?
ผู้ได้ประโยชน์ที่แท้จริงก็คือตัวสัตว์เองที่จะมีข้อมูลเจ้าของ เมื่อมีคนมาพบเจอขณะหลงและสัตว์จรจัดก็จะไม่ถูกจับทําหมันหรือ ฉีดยาซํ้าซ้อน ผู้เลี้ยงจะมีโอกาสได้รับสิทธิพิเศษในเรื่องการใช้บริการ ร้านค้าต่างๆและวัคซีนพิษสุนัขบ้ารวมถึงการทําหมันอีกด้วย เจ้าหน้าที่ก็สามารถทํางานได้ครอบคลุมไม่ตกหล่นเพิ่มประสิทธิภาพ ในการทํางานและคอยติดตามผลได้ตลอดเวลา
ทําไมถึงใช้ความถี่ 13.56MHz ที่สามารถแสกนได้ 10มิลลิเมตร?
เนื่องจากการแก้ปัญหาสัตว์จรจัดที่แท้จริงนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับเครื่อง มือแต่คือการร่วมมือของเจ้าของสัตว์เลี้ยงและเจ้าหน้าที่ เราจึงได้ทดลองหาตําแหน่งที่เหมาะสมในการฝังชิพสัตว์จรจัด เพื่อให้สามารถได้ใช้เครื่องมือที่สามารถเข้าถึงและเชื่อมต่อฐาน ข้อมูลที่สะดวกและง่ายที่สุด เพื่อให้ความฝันที่จะมีสังคมไร้สัตว์ จรจัดสามารถเกิดขึ้นจริงในอนาคต
ทําไมสัตว์จรจัดต้องใช้ไมโครชิพแบบฝังที่มีราคาสูงกว่าการใช้ป้ายหรือการระบุตัวตนแบบอื่น?
เนื่องจากป้ายห้อยคอมีโอกาสที่จะหลุดหายเกือบ 100% ซึ่งจะไม่ สามารถทําให้ระบุตัวตนของสัตว์ตัวนั้นๆได้อีกและต้องเริ่มเก็บข้อมูล ใหม่และการใช้ไมโครชิพความถี่ 13.56MHz ยังสามารถพาผู้ใช้งาน เข้าไปถึงฐานข้อมูลของสัตว์ได้โดยตรงซึ่งจะแสดงผลต่างกัน ในแต่ละชั้นความลับที่วัดจากหน้าที่และการใช้งานของแต่ละบัญชี